วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

ทำไมฉันจึงรักวัดพระธรรมกาย

ผมเได้เข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรก ก็เพราะอยากบวชให้แม่ อยากบวชให้ตัวเอง ก่อนจะที่จะจบการศึกษาครับ เป็นวัดเดียวครับที่บวชฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย... จึงตัดสินใจมาบวชที่วัดนี้ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจวัดเท่าไร แต่เห็นว่าบวชฟรีก็ยอมไปครับ...พอได้มาบวช ได้มาศึกษา จึงได้เข้าใจ เป้าหมายและมโนปณิธานของวัด ที่ต้องการขยายธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปทั่วโลก .. ยิ่งพอมาได้เจอหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาส ก็ยิ่งปลื้มมากๆครับ ท่านเป็นตัวอย่างและเป็นผู้นำในการสร้างความดีอย่างตลอดต่อเนื่อง ไม่เสร็จ ไม่เลิก ไม่เคยท้อ ไม่เคยถอย แม้สุขภาพท่านไม่แข็งแรง แต่ท่านก็ไม่เคยพัก ยังคงสร้างงาน ขยายงานพระศาสนาไปอย่างต่อเนื่อง


หลังจากบวชเสร็จแล้วก็ได้ออกมาศึกษาต่อจนจบการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ และก็ได้ไปทำงานเป็นวิศวกรตามที่เราได้เล่าเรียนมา ได้นำเอาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้ศึกษามาใช้ในการทำงาน ใช้ในการดำเนินชีวิต ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปมากๆ จากที่เป็นคนใจร้อน ก็ใจเย็นขึ้น ชีวิตมีความสุขมากขึ้นเลยครับ โดยที่ไม่ต้องไปเที่ยวเตร่ยามค่ำคืนเหมือนแต่ก่อน เสียทั้งเงิน เวลาและสุขภาพ... พอรู้สึกดีก็ได้แนะนำน้องชายและหลานๆให้ลองมาที่วัดและลองมาบวชที่นี่เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่..หลายชาย นิสัยเปลี่ยนไปเลยครับ ดีขึ้นมากๆ จากเด็กที่ดื้อๆ สอนยาก ก็เปลี่ยนไปเป็นเด็กดี ว่าง่าย ส่วนน้องชายเมื่องก่อนพอมีปัญหาเรื่องธุรกิจก็เครียด ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร....เดี๋ยวนี้ก็มีสติ แก้ปัญหาไปได้ด้วยปัญญาและสมาธิ ธุรกิจก็เจริญรุ่งเรือง...ต้องถือว่าวัดพระธรรมกายเป็นแหล่งการอบรม บ่มนิสัยที่ยอดเยี่ยมมากๆครับ เป็นจุดเด่นของวัดนี้เลยครับ



ที่วัดจะสอนธรรมะแบบง่่ายๆครับ คือ ให้ละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์ และก็เน้นการนั่งสมาธิเป็นหลัก ..เมื่อเรานั่งหลับตา เราจะเห็นอะไรมากมายที่เราไม่เคยเห็น เมื่อลืมตาเรามองเห็นแต่ความผิดของคนอื่น แต่พอหลับตา เราจะเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง จะมองโลกได้ตามความเป็นจริง มีสติ มีปัญญา และมีสมาธิ ...ผมมาที่วัดแล้วก็มีความสุขครับ พาน้อง พาหลานมาแล้ว...ชีวิตเขาก็ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น นี่แหล่ะครับ ว่าทำไม...ผมจึงรักวัดพระธรรมกาย